เมื่อเร็วๆนี้ ฉันติดต่อคนไข้ของฉันเพื่อสอบถามเกี่ยวกับความท้าทายด้านสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ ในขณะนี้ฉันได้ใช้เวลาทบทวนคำตอบด้วยความเอาใจใส่
และนี่คือคำตอบสองข้อที่ฉันได้รับ:
“How do you continue to try and stay fit (gym, work, golf etc…) when a long standing, persistent back injury keeps คุณยังคงความต่อเนื่องและรักษาความฟิตต่อไปได้อย่างไร (ยิม ทำงาน กอล์ฟ และอื่นๆ) ในเมื่อมีอาการบาดเจ็บที่หลังเรื้อรังเป็นเวลานาน เกิดขึ้นซ้ำๆ ดูเหมือนในระหว่างที่ทำกายภาพบำบัดทุกอย่างมันดีขึ้น แต่ทันทีที่หยุดทำปัญหาของฉันก็กลับมา ฉันรู้ว่าคำตอบที่ชัดเจนคือการทำกายภาพบำบัดมากขึ้น แต่ฉันรู้สึก ว่านี่เป็นเพียงแค่การปกปิดปัญหาเท่านั้น ฉันจะทำอะไรได้บ้างหละ? – ธเนศ
และ
“เนื่องจากปัญหาหลังส่วนล่างของฉัน ฉันจึงไม่สามารถที่จะออกกำลังกายใดๆได้เลยและทำให้น้ำหนักขึ้นจนฉันต้องดิ้นรนเพื่อลดมันเพราะปัญหาต่อมไทรอยด์
ปกติฉันควบคุมอาหารอยู่แล้วแต่คิดว่าต้องออกกำลังกายเพิ่มด้วย ฉันแน่ใจว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้ช่วยให้ปัญหาที่หลังของฉันดีขึ้นเลยใช่ไหม? – ภัษษร
…ดังนั้น ให้ฉันได้ลองตอบคำถามที่คล้ายกันทั้งสองนี้ ซึ่งฉันได้ยินมาเยอะมาก
และฉันจะเริ่มด้วยความกังวลของคุณ John เกี่ยวปัญหาที่หลังของเขาที่ยังคงเกิดขึ้น ฉันบันทึกไว้ว่าเขากล่าวว่ากายภาพบำบัด “ปิดบัง” ปัญหา … และฉันเห็นด้วย…ในระดับหนึ่ง…เพราะมันเป็นแบบนี้:
กายภาพบำบัดไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ โดยที่คุณจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณอีกต่อไป
แน่นอนว่ามันสร้างความแตกต่างอย่างมาให้กับคุณภาพชีวิตของคุณได้ และสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอาการปวดและความฝืดของหลังในช่วงเวลาสำคัญ
ช่วยลดความเสี่ยงและช่วยคุณหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบในระยะเริ่มแรก แต่จะไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
มันเหมือนการทำความสะอาดฟันของคุณ
คุณทำวันละสองครั้งและแม้คุณพบทัตแพทย์ทุกๆหกเดือนเพื่อให้เขาตรวจ แต่ฉันพนันได้เลยว่าคุณยังปวดฟันเรื่อยๆหรือฟันพุ ใช่ไหม?
และนั่นเป็นเพราะว่ามันคือเรื่องปกติของกลไกลของฟัน(และหลังส่วนล่าง) ที่จะต้อง “สึกหรอ”ทุกวันอันเป็นผลมาจาก “การใช้ชีวิต”
และตอนนี้ กายภาพบำบัด ก็เหมือนทัตแพทย์ ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการพาคุณไปในทางที่ถูกต้อง — หมายความว่า เวลาที่เจ็บปวดน้อยลง เวลาที่ไม่มีอาการเจ็บปวดมากขึ้น
แต่ความสำเร็จในระยะยาวที่แท้จริงในการต่อสู้กับอาการปวดหลังของคุณคือสิ่งที่คุณทำ
เช่นเดียวกับลักษณะการใช้ชีวิตของคุณ คลาสการออกกำลังกายที่คุณเข้าร่วม (…หรือการจัดบ้านของคุณ) ประเภทของการออกกำลังกายที่คุณทำหรือไม่ทำจนถึงระยะเวลาที่คุณนั่ง (กระทั่งวิธีที่คุณทำ)
คุณธเนศบอกกับฉันว่าเขาเป็นพนักงานออฟฟิส
ตอนนี้ฉันพนันได้เลยว่าในหนึ่งวันของเขาเต็มไปด้วยการนั่งที่โต๊ะหรือในการประชุมที่สำคัญ และอื่นๆ
และนั่นหมายถึงมีแนวโน้มที่จะมีอาการปวดหลังเรื้อรังเพิ่มมากขึ้น เพรา “หลัง” ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้นั่งกับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวที่ไม่แข็งแรงและท่าทางที่ไม่ดี
(มันคือเรื่องจริง… การนั่งและงอตัวและยกของซ้ำๆเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดหลังเรื้อรัง)
วิธีการแก้ปัญหาระยะยาว?
ท่าการออกกำลังกายที่ทำเป็นประจำเพื่อเพิ่มการควบคุมกล้ามเนื้อ โดยใช้การออกกำลังกายแบบพิลาทิสและการยืดกล้ามเนื้อเพื่อทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อมีความนุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น
สิ่งหนึ่งที่ฉันต้องชี้ให้เห็น – “การออกกำลังกาย” (วิ่ง ว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ และอื่นๆ) ไม่ค่อยช่วยให้หลังแข็งแรงขึ้น… และมันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการออกกำลังกายกับทำการออกกำลังกาย
(เช่น พิลาทิสและโยคะคือการออกกำลังกายที่ทำให้คุณมีรูปร่างที่ดีพอที่จะ “ออกกำลังกาย” ได้)
ท่าออกกำลังกายแบบพิลาทิสนั้นยังเหมาะสมสำหรับ “ภัษษร” (ผู้ที่ถามคำถามที่สอง) และเธอก็พูดถูก… อาการปวดหลังยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อหลังส่วนล่างต้องแบกรับน้ำหนักที่ตกลงไป
แต่ประเด็นเดียวกัน…
แรงกดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องลงไปที่หลังส่วนล่าง… ทำให้การเพิ่มความแข็งแรงและการควบคุมหลังของเธอยิ่งมีความสำคัญเพิ่มขึ้นไปอีกในทุกวัน
(เหมือนกับการแปรงฟันของคุณ)
กายภาพบำบัดทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อช่วยให้คุณพ้นจากความเจ็บปวดและทำให้ข้อต่อกลับเข้าที่…จากนั้นจบลงด้วยการออกกำลังกายในระยะยาวเพื่อคงสภาพมันไว้
และนั่นเป็นการรับประกัน100% ว่ามันจะคงอยู่แบบนั้น?
แน่นอนว่า ไม่!
แต่…
มันช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและกระฉับกระเฉงอย่างมากในระยะยาวโดยไม่ต้องใช้ยาหรือผ่าตัด อยู่ที่คุณเลือกว่าจะไม่ทำการออกกำลังกายเหล่านั้นหรือเดินทางไปพบนักกายภาพบำบัด
ดังนั้น คำตอบสำหรับทั้งสองคำถามนี้จะอยู่ในความมุ่งมั่นและวินัยในระยะยาวในการทำการออกกำลังกายที่เหมาะสม